ทริปท่องเที่ยวประเทศโซนยุโรป
แนะนำท่องเที่ยวด้วยภาพ .. เดินทางด้วยตนเอง ( TRAVEL BY PHOTO )
ตอน Europe Trip TRIP 2013 ( Netherland , France , Belgium )
ท่องเที่ยวยุโรป ด้วยตนเอง กับประเทศ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม
การเดินทางไปยุโรปครั้งนี้จำเป็นต้องขอ วีซ่าโดยวีซ่าที่ขอสมัยนี้เค้าใช้วีซ่า แบบ Schengen ซึ่งขอครั้งเดียวสามารถเดินทางเข้าได้หลายประเทศ โดยหน้าตาของ Schengen Visa หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ หากท่านเดินทางกับทางบริษัท ทัวร์ก็ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ครับโดยบริษัท ทัวร์จะดำเนินการเรื่องเอกสารและติดต่อกับทางสถานฑูตให้เอง ส่วนตัวท่านมีหน้าที่เตรียมเอกสารตามที่บริษัททัวร์ร้องขอครับ ส่วนผมเดินทางไปเองพร้อมครอบครัว ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมี สถานที่ที่เราจะไปพัก ( อย่างชัดเจน ) หากไปพักกับบ้านญาติพี่น้องที่อยู่ยุโรป ท่านจะต้องให้เจ้าของบ้านทำเรื่องที่ หน่วยราชการของเค้า ( เปรียบเทียบก็เหมือนกันเขต ) ว่าจะทำหนังสือเชิญญาติมาพักอาศัยที่บ้าน เพื่อการท่องเที่ยว และเอาหนังสือนี้ส่งกลับมาประเทศไทย เพื่อให้เรานำไปประกอบการพิจารณาออก Visa ส่วนทริปในการขอ Visa Schengen ที่สำคัญเลยคือ
1.ท่านจะต้องมีเอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน ท้้งขาไป และขากลับ ยื่นพร้อมประกอบการพิจารณา Visa ( ท่านไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วจริง สามารถหาดูบริษัทที่สามารถทำการจองเพื่อไปขอวีซ่า ไม่เช่นนั้นหากท่านซื้อตั๋วจริง หากวีซ่าไม่ได้รับการอนุมัติ ท่านจะเสียเงินค่าตั๋วฟรีครับ )
2.การเดินทางเข้าประเทศยุโรป ค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายสูง ดั้งนั้น สถานฑูต แต่ละประเทศจะกำหนดให้ท่านต้องทำประกันภัยการเดินทางเป็นรายบุคคล ( รายละเอียดต้องศึกษาจากสถานฑูตแต่ละประเทศว่าเค้าต้องให้ท่านทำประกันภัย ให้มีทุนประกันคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเท่าไหร่ ) ซึ่งเหตุผลคือค่ารักษาพยาบาลในประเทศโซนยุโรปนี้มีราคาค่อนข้างแพง ทางสถานฑูตแต่ละประเทศเลยป้องกันภาระที่จะต้องมาดูแล หากไม่ได้ซื้อประกันภัยมาครับ ( หากไม่ซื้อประกันภัยการเดินทาง ไม่สามารถขอวีซ่าได้ครับ เป็นกฏ )
3.เงินที่เราจะต้องเตรียมเพื่อการใช้จ่ายแต่ละวัน ทางสถานฑูตเค้าจะระบุไว้เลยใน ใบคำขอ Visa ว่าท่านจะต้องมีเงินสดเพื่อการดำรงชีพแต่ละวันเท่าไหร่ ต่อคน ซึ่งเราสามารถใช้บัตรเครดิตทดแทนได้ ( มีกฏนี้ขึ้นมา เนื่องจากมีพวกหลบนี้เข้าเมืองเพื่อทำงานครับ บางครั้งทางเจ้าหน้าที่ที่สนามบิน ขาเข้า สามารถเรียกตรวจได้ )
กลุ่มประเทศที่ท่านสามารถเดินทางเข้าได้โดยใช้ Schengen Visa ตามนี้ครับ
ประเทศสมาชิกในเขตเชงเก้นมีอยู่ทั้งหมด 26 ประเทศ
สมาชิกในปัจจุบันที่เป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปมีทั้งหมด 22 ประเทศ ดังนี้ (ออสเตรีย เบลเยียม สาธารณรัฐ เช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮังการี อิตาลี กรีซ ลัตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลต้า เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกสสโลวัก สโลวีเนีย สเปน และสวีเดน )ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ใน 6 ประเทศดังนี้ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ไซปรัส บัลแกเรีย โรมาเนีย และโครเอเชีย ยังมิได้เป็นประเทศสมาชิกเชงเก้น
** สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ บัลแกเรีย และ โรมาเนียซึ่งต่างเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกประเทศเชงเก้น **

เริ่มต้นการเดินทางไปยุโรปกันเลยครับ แน่นอนต้องไปขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ
.jpg)
Signature ของ ประเทศครับ สะพานยกเปิดได้เพื่อให้เรือผ่าน

Signature ของ Rotterdam Park

ฉลองวันเกิดลูกสาวสุดที่รัก น้องเมนี่ที่ยุโรปครับ

ตะลุยสวนดอกไม้ Keukenhof Netherland
แนะนำท่องเที่ยวด้วยภาพ .. เดินทางด้วยตนเอง ( TRAVEL BY PHOTO )
ตอน Europe Trip TRIP New Year 2015 ( Netherland , Switzerland , Germany )
ท่องเที่ยวยุโรป ด้วยตนเอง กับประเทศ เนเธอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมันนี
ทริปนี้เกิดขึ้นมาได้ด้วย ความต้องการซึ่งอยากจะสัมผัส บรรยากาศ " ช่วงเทศกาลคริสมาสต์ของชาวยุโรป " ว่าเค้าเป็นกันอย่างไร ไอ้บรรยากาศ...ที่ว่าเงียบเหงา อึมครึม เป็นอย่างไร ประกอบกับ อากาศที่หนาวและหิมะตก อากาศติดลบนั้นจะเป็นอย่างไร ซึ่งนั่นเองคือที่มาของทริปนี้ ซึ่งจะตอบโจทย์ให้กับเราและเปลี่ยนมุมมองและเติมเต็มความฝันในการท่องเที่ยวในช่วงเดือนที่แตกต่างกันออกไป
สำหรับคนที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวยุโรปช่วงคริสมาสต์นี้ แนะนำให้รีบจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าอย่างน้อย 4-5 เดือนครับ เหตุผลหรือครับ...เนื่องจากช่วงนี้เป็น ช่วง High Season ราคาตั๋วเครื่องบินจะแพงม๊ากกกกก เพราะเป็นช่วงที่ โรงเรียนทางยุโรปหยุดเรียน ( ฝรั่งเค้าเรียกว่า School Holiday ) โดยจะหยุดเรียนประมาณ 2 อาทิตย์กว่า ดังนั้นชาวยุโรปจึงพาครอบครัวเดินทางท่องเที่ยว ( บางคนหนีหนาวมาแถบเอเซียของเรา ) และอีกเหตุผลชาวยุโรปที่ทำงานต่างประเทศ ก็เดินทางกลับบ้านเพื่อไปฉลองเทศกาลคริสมาสต์กับครอบครัวกันซะส่วนใหญ่ ( เหมือนเทศกาลสงกราน์ตบ้านเรา หรือ ตรุษจีนบ้านเรา )
ส่วนการเดินทางไปท่องเที่ยวยุโรป ก็ยังคงมีกระบวนการเหมือนเดิม คือ หนังสือเดินทางจากประเทศไทย ยังคงจำเป็นที่จะต้องขอวีซ่าเข้าประเทศในโซนยุโรป โดยการขอวีซ่าจะเป็นแบบวีซ่าแชงเก้น ( Schengen Visa )
กลุ่มประเทศที่ท่านสามารถเดินทางเข้าได้โดยใช้ Schengen Visa ตามนี้ครับ
ประเทศสมาชิกในเขตเชงเก้นมีอยู่ทั้งหมด 26 ประเทศ
สมาชิกในปัจจุบันที่เป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปมีทั้งหมด 22 ประเทศ ดังนี้ ( ออสเตรีย เบลเยียม สาธารณรัฐ เช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮังการี อิตาลี กรีซ ลัตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลต้า เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกสสโลวัก สโลวีเนีย สเปน และสวีเดน ) **การเดินทางเข้าประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ ไม่ต้องขอวีซ่าต่างหาก สามารถใช้วีซ่าแชงเก้นได้เลยครับ**
ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ใน 6 ประเทศดังนี้ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ไซปรัส บัลแกเรีย โรมาเนีย และโครเอเชีย ยังมิได้เป็นประเทศสมาชิกเชงเก้น
** สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ บัลแกเรีย และ โรมาเนียซึ่งต่างเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกประเทศเชงเก้น **
การเดินทางในครั้งนี้ เราได้เดินทางไปกับสายการบิน KLM ( Royal Dutch ) ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศเนเธอร์แลนด์
เริ่มต้นการเดินทาง ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ( Suvarnabhumi ) เที่ยวบิน KL876 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 12.25 น. กำหนดการเดินทางถึง สนามบิน Schiphole เมือง Amsterdam ประเทศ เนเธอร์แลนด์ เวลา 18.15 น. โดยเวลาของประเทศเนเธอร์แลนด์ ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมงครับ
**การเดินทางครั้งนี้ จริงๆ แล้วมีสายการบินที่ผมตั้งใจจะเลือก อยู่ 3 สายการบิน ผมจะแนะนำเทคนิคการเลือกซื้อตั๋วเครื่องบินให้ได้ ประโยชน์ทั้ง ราคา และเวลาดังนี้ครับ **
1.สายการบิน China Airline ของไต้หวัน ( ราคาถูกที่สุดครับ 26,500 -28,000 บาท )
2.สายการบิน KLM ของเนเธอร์แลนด์ ( ราคาตอนผมซื้อ ประมาณ 30,450 บาท ในช่วง High )
3.สายการบิน EVA Air ของไต้หวัน ( ไม่มีโปรโมรชั่นราคาประมาณ 33,000 -34,000 บาท ช่วง High )
เทคนิคการเลือกเครื่องบินผม คือดูแบบของเครื่องบินที่แต่ละสายการบินใช้บินก่อนครับ โดยในการเดินทางครั้งนี้ สายการบิน China และ Eva Air ใช้เครื่องบินโดยสารขนาดกลาง โบอิ้ง 777-300ER
ส่วนสายการบิน KLM ของเนเธอร์แลนด์ ใช้เครื่องบินประเภท โบอิ้ง 747-400 ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าครับ ( เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่กว่า จะใช้เวลาเดินทางเร็วกว่า และมีความนุ่มนวลในการบิน และไม่โครงมากเวลาเครื่องตกหลุมอากาศครับ ) ผมดูเวลาเดินทางของสายการบิน China และ Eva Air ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งสิ้น 13.5 ชั่วโมงครับ หากเดินทางโดยสายการบิน KLM เครื่อง 747-400 ใช้เวลาเดินทาง 12 ชั่วโมง 15 นาที ครับ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางเร็วกว่า ประมาณ 1 ชััวโมงกว่าครับ
ก่อนที่จะมีเหตุสะเทือนขวัญ ที่ยูเครนยิงเครื่องบินของสายการบิน มาเลเซียแอร์ไลน์ตก หลังจากที่บินขึ้นจากสนามบิน Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ประมาณราว 1 ชั่วโมง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการบินกันยกใหญ่ครับ ธรรมดาจะใช้เวลาบิน กรุงเทพ-อามสเตอร์ดัม ประมาณ 11 ชั่วโมงครึ่ง ตอนนนี้ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น เนื่องจากเครื่องบินต้องบินอ้อมประเทศยูเครน ตัดขึ้นไปทางตอนใต้ของ Moscow ประเทศรัสเซียครับ ซึ่งจะทำให้เพิ่มเวลาในการบินขึ้นอีก 1 ชั่วโมงครับ ** ดังนั้นด้วยเวลาที่บินน้อยกว่า และ เครื่องบินที่ใหญ่กว่าไม่มีเหตุผลอันใดที่จะทำให้ผมไม่เลือกสายการบิน KLM นี้ครับ **
ช่วงเวลาที่เราเช็คอิน คนเยอะมาก โชคดีที่เราเดินทางพร้อมเด็กทำให้ได้เช็คอินในช่องทางพิเศษ SKY PRIORITY ครับ แถมยังโชคดีซ้ำสองครับ เจ้าหน้าที่ตรวจพาสปอร์ตก่อนเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองเห็นเรามีเด็กและรถเข็น เลยให้เราเข้าตรวจความปลอดภัย ในช่องเดียวกับ กัปตันและลูกเรือครับ ( สบายมากเลยครับ เร็วด้วย )

เที่ยวบินให้ขึ้นเครื่อง ณ.ประตูทางออกหมายเลข E8 ( GATE E8 ) เที่ยวบินวันนี้ค่อนข้างเต็มครับ แต่โชคดีที่เราจองที่นั่งไว้แล้วครับ หลังจากที่เครื่อง PUSH BACK พร้อมออกเดินทางจะเห็นเจ้า Emirate จอดรอรับผู้โดยสารอยู่ด้านข้างครับ


ยอมรับเลยครับว่าสายการบิน KLM ให้ความสนใจกับเด็กมากครับ บริการประทับใจ แอร์ต่างชาติก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเอง เอาของเล่นเด็กมาให้เต็มเลยครับ ( โดยไม่ต้องขอ ) ที่เคยเจอสายการบินอื่นบางครั้งต้องขอถึงได้ครับ

.jpg)
คลิปนี้เป็นคลิปที่ มีมุมมองจาก หน้าต่างเครื่องบิน ฝั่งด้านขวา ของเครื่องบิน Boeing แบบ 747 - 400 ของสายการบิน KLM ไฟลท์ กรุงเทพฯ ( สนามบินสุวรรณภูมิ ) ไปสู่ กรุงอามสเตอดาม (สนามบินสคิปโพล ) ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยในคลิปเครื่องบินของเราได้รับรอนุญาติให้ TAXI ไปตามทางวิ่ง โดยวันที่เดินทางการจราจรทางอากาศ ณ.วันเดินทางที่ค่อนข้างเยอะ สังเกตุจากเครื่องบินที่ต่อแถวรอบินขึ้นอยู่หลายลำ และวันนี้เราได้รับอนุญาติให้บินขึ้นจาก RUNWAY 01L ของสนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นเป็นการถ่ายถอดบรรยากาศตอนเครื่องบิน Take Off จาก สนามบินสุวรรณภูมิ RUNWAY 01L ซึ่งวันที่เดินทางลองสังเกตุดูจากคลิปครับ เครื่องบินใช้ทางวิ่งบน รันเวย์ จนเกือบสุด รันเวย์ สังเกตุง่าย ๆ ดูจากตอนเครื่องบิน Rotate หัวขึ้นเรามองออกนอกหน้าต่างจะเห็นว่ามาถึงบริเวณ คาร์โก้ (คลังสินค้า) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วครับ พอเครื่องไต่ระดับเราจะได้เห็นถึงทัศนียภาพ โดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ยาวไปจนกระทั่งถึงแถว ลำลูกกาและรังสิต-ปทุมธานี

หลังจากที่ กัปตันปลดสัญญาณรัดเข็มขัด ทางลูกเรือก็เริ่มเสริฟอาหารและเครื่องดื่มครับ
อันนี้เป็นความเอาใจใส่ครับ ดูแก้วใส่น้ำของ KLM กิ๊ปเก๋มากเลยครับ เป็นสัญลักษณ์ รถจักรยาน รองเท้าไม้ และ ดอกทิวลิปครับ ( ปลื้มมาก อันนี้ผมไม่ได้รับค่าโฆษณากับเค้านะครับเพียงแต่เค้าใส่ใจรายละเอียดจริง ๆ มีต่อครับ )

อันนี้เป็นอาหารเด็กครับ ที่ผมบอกว่าเค้าเอาใจตรงไหนรู้ไหมครับ คือตอน Booking ทางเราไม่ได้เลือกอาหารพิเศษไว้ครับ แต่ตอนเช็คอินเค้าเห็นผู้โดยสารร่วมเดินทางเป็นเด็ก เค้าเลยเลือกอาหารให้เป็นอาหารเด็กเลยครับ โดยที่เราไม่ได้ร้องขอ แถมอาหารยังได้รับการเสริฟก่อนใครเลยครับ ทางแอร์เค้าเดินมาแจกให้เด็กก่อนเลยครับ ( ประทับใจมาก ) อาหารก็มาจากครัวการบินไทยครับ ( สังเกตุจาก สติ๊กเกอร์เป็นของครัวการบินไทยครับ ) เป็น มักโรนีอบแฮมชีส เสริฟพร้อมน้ำส้ม และ ขนมปังnbsp;ส่วนของหวานเป็น ผลไม้ คุ๊กกี้ พร้อมในกล่องสีดำ เป็นชีส และช็อคโกแลตครับ

ส่วนของผมเลือกเป็น ผัดไท ดีกว่าครับ ลองสังเกตถดูที่ถุงใส่ช้อน ส้อม จะเป็นลายกังหัน ซึ่งเป็นภาพเขียนมีชื่อของ ศิลปินชาวเนเธอร์แลนด์ครับ สวยมาก กินไปด้วยดูถุงไปด้วยเพลินเลย

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ดูหนังและเล่นเกมส์ครับ ภาพกลางเครื่องบินผ่านคาบสมุทรอินเดีย ส่วนภาพขวาเป็นทะเลทราบครับ ซึ่งปกคลุมด้วยหิมะของตะวันออกกลางครับ

อากาศเริ่มเย็นตัวลง เพราะเริ่มสังเกตุเห็นเกล็ดน้ำแข็งเกาะด้านนอกกระจกเครื่องบิน ( ดูกันเพลินไปเลย )

หลังจากที่เราเดินทางมาเป็นเวลานาน ก็ถึงแล้วครับ สนามบิน Schiphole เมือง AMSTERDAM ขณะนี้เวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ อุณหภูมิ 2 องศาครับ มีฝนตกเล็กน้อย ( หนาวได้ใจครับ )

พาไปชมบรรยากาศ หนาว ๆ ยามบ่ายของเมือง Utrecht (ยูเทรกต์ )ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในตอนกลางของประเทศเนเธอร์แลนด์ ยูเทรกต์เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของเนเธอร์แลนด์

วันนี้เราได้มีโอกาสเดิน ชอปปิ้งเสื้อหนาว ถุงมือ ลดราคาของเด็กน้อยและของผู้ใหญ่ไว้เสริมทัพสู้ความหนาว ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ครับ

จัดเสื้อหนาวเด็กมาครับ สีชมพู ลดราคา 10 Euro ค่าเงินประมาณ 40 บาท ( รวมเป็นเงินประมาณ 400 กว่าบาท ) แต่ที่สำคัญใช้งานได้จริงครับ แนะนำสำหรับคนที่จะไปท่องเที่ยวยุโรปว่าพวกเสื้อหนาวไม่ต้องซื้อเตรียมตัวจากเมืองไทยนะครับ เพราะของที่ซื้อจากเมืองไทยใช้งานไม่ได้จริงหรอกครับเพราะอากาศเค้าหนาวจริงๆ ซื้อที่นี่ดีกว่า ถูกกว่า และใช้ได้จริงครับ ไม่ต้องเสียเวลาแบกจากเมืองไทยครับ เพราะสินค้าที่นี่ทางรัฐบาลเค้าค่อนข้างคอนโทรลเรื่องคุณภาพความเป็นอยู่ของคนในประเทศเค้าครับ ดูแลดีจริงๆ
ย่านศูยน์การค้า Shopping Center ใจกลางเมือง ( พากันเดินชอปปิ้ง ตอนอากาศ 3 องศา ฟิ้น ฟิน ... )

บรรยากาศ ชิว ๆ เหงา ๆ ของแหล่งช็อบปิ้งใจกลางเมืองครับ ( ผิดกับย่านช็อปปิ้งเมืองไทยเยอะเลยเนอะ )

ช่วงเวลาที่เราเดินทางไปนั้น เป็นช่วงหน้าหนาว ร้านค้าริมน้ำจะปิดหมดครับ ไฮไลท์ของที่นี่ช่วงหน้าร้อนจะมีร้านค้า ให้ช็อปปิ้งริมน้ำครับ

ปิดท้ายของการเดินทางเมืองแรกของประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วยภาพ SUNSET ของเมือง Utrecht (ยูเทรกต์ )

Happy Wedding Aniversary 2 Year at Rotterdam , Natherland
งานครบรอบแต่งงานพี่ชาย ที่ยุโรป ประเทศ เนเธอร์แลนด์ครับ พอดีได้มีโอกาสเป็นช่างภาพ


