1.วิธีการเลือกซื้อใบสกรูลำเลียง
สามารถเข้าลิงค์เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การเลือกซื้อใบสกรูลำเลียง ได้ที่ http://www.thailandmower.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539719863
2.การออกแบบประเภทของสกรูลำเลียง และรูปแบบของการใช้งาน
ประเภทของสกรูลำเลียง และรูปแบบของการใช้งาน

สกรูลำเลียงเป็น เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ ที่มนุษย์สร้างขึ้น มีประโยชน์สำหรับใช้ในการลำเลียง และขนถ่ายวัสดุต่างๆ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งไม่ว่า จะเป็นแนว นอน แนวดิ่ง หรือแม้กระทั่งแนวเอียง ซึ่งโดยมากวัสดุจะสามารถใช้สกรูลำเลียงได้นั้น มักจะเป็นวัสดุที่เป็นประมาณมวล ( Bulk Materials ) ซึ่งการออกแบบนั้นจะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบและการประเภทงานที่จะนำไปใช้งาน ประกอบกับวัสดุที่จะลำเลียงว่าเป็นวัสดุประเภทใด มีขนาดเล็กใหญ่ หรือ เป็นของแข็งหรือของเหลว ซึ่งล้วนแล้วแต่ผลต่อการออกแบบด้วย
สกรูลำเลียงจะมี อุปกรณ์หลัก ๆ ที่จะประกอบกันเป็นสกรูลำเลียงดังนี้
1. ใบสกรูลำเลียง แบ่งออกเป็น
ใบสกรูแบบต่อ ( หรือเป็นใบ ๆ ) จะมีลักษณะเป็นใบ ๆ ซึ่งผู้ใช้งานจำเป็นต้องนำไปเชื่อมต่อกันเองตามความยาวที่ต้องการ

ใบสกรูแบบชนิดรีดยาวไม่มีรอยต่อ จะมีลักษณะเป็นเกลียวสกรูรีดยาวเป็นเส้น ปราศจากรอยต่อ ซึ่งซึ่งเป็นการย่นระยะเวลาการทำงาน และง่ายต่อการซ่อมบำรุงรักษา

2. รางสกรูลำเลียง หรือท่อสกรูลำเลียง แบ่งออกเป็น
รางสกรูลำเลียงแบบตัวยู ซึ่งส่วนมากจะเน้นไปที่การลำเลียงวัสดุในแนวนอน ขนานราบไปกับพื้น หรือมีความลาดเอียงของตัวสกรูลำเลียงไม่มาก ไม่น่าเกิน 5-10 องศา
สาเหตุที่เราไม่นิยมนำไปลำเลียงวัสดุในแนวเอียงมาก ๆ เนื่องจากว่า วัสดุที่ลำเลียงในแนวเอียง จะสามารถไหลย้อนกลับตามแรงโน้มถ่วงจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ
.jpg)

รางสกรูลำเลียงแบบท่อกลม ซึ่งส่วนมากจะเน้นไปที่การลำเลียงวัสดุ ที่มีความลาดเอียงของตัวสกรูลำเลียงเกินกว่า 5-10 องศา ( หากเราออกแบบงานลำเลียงที่มีองศา โดยใช้ท่อสกรูชนิด เป็นรางตัวยู จะส่งผลให้ วัสดุภายในท่อสกรู จะไหลย้อนกลับตามแรงโน้มถ่วง ทำให้ไม่ได้ประสิทธิภาพในการทำงานของสกรูอย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงควรเลือกออกแบบเสื้อของใบสกรู
ให้ถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน )

3. ชุดขับสกรูลำเลียง เช่น มอเตอร์เกียร์ หรือชุดส่งกำลัง
โดยปกติวิธีการส่งกำลังของสกรูลำเลียงจะเริ่มต้นจาก ชุดอุปกรณ์ช่วยลดแรง ( เกียร์ทดรอบ ) และอุปกรณ์ต้นกำลัง ( มอเตอร์ไฟฟ้า ) ซึ่งรวมแล้วจะเรียกว่า มอเตอร์เกียร์ ซึ่งประเภทของมอเตอร์เกียร์แบ่งออกได้ตามรูปร่างลักษณะดังนี้
1.Worm Gearmotors เป็นมอเตอร์เกียร์ที่มีลักษณะการออกแบบในการใช้งานจริง ซึ่งเป็นงานที่มีภาระโหลดไม่หนักมาก เนื่องจากรูปแบบการออกแบบทางโครงสร้างของมอเตอร์มีการสูญเสียแรงในช่วงของการส่งต่อกำลัง หักมุมด้วยเฟืองเกียร์ดอกจอกมุม 90 องศา ( ส่วนมากมอเตอร์แบบ worm จะได้รับความนิยมมากเนื่องจากมีราคาถูกกว่าแบบอื่น )

2.Helical Gearmotors เป็นมอเตอร์เกียร์ที่มีลักษณะการออกแบบที่ทำให้มีกำลัง แรง Torque ที่สูง เหมาะกับการใช้งานหนักที่ต้องการกำลังในการขับสูง

4. ตัวแขวน หรือ แฮงค์เกอร์ ( HANGER )
เนื่องจากสกรูลำเลียงส่วนมากที่เราสร้าง มักจะส่งกำลังผ่านแกนกลางซึ่งทำมาจากท่อเหล็ก หรือ เพลาตันซึ่งในการสร้างสกรูที่มีระยะความยาวมาก ๆ สิ่งที่เกิดตามาคือ การตกท้องช้างตามแรงโน้มถ่วง ซึ่งส่งผลทำให้ขณะชุดสกรูหมุนทำงานเกิดแรงเหวี่ยงที่หนีศูยน์ อาจจะส่งผลทำให้เกิดใบสกรูเหวี่ยงกับกับเสื้อของชุดสกรูได้ ดังนั้นเราจึงมีอุปกรณ์ตัวนึงที่สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาในการสร้างสกรูที่มีระยะทางในการส่งยาว ๆ เราเรียกอุปกรณ์นั้นว่า Hanger '' แฮงค์เกอร์ '' โดยหลักในการใช้งานนั้นเราจะทำการติดตั้ง Hanger ซึ่งระยะติดตั้ง Hanger จะอยู่ที่ประมาณ 2.5-3.0 เมตร/ตัว ( จะช่วยลดอาการตกท้องช้างของเพลาหรือท่อ ได้เป็นอย่างมาก )
เราแบ่งประเภทของ Hanger ตามลักษณะของการออกแบบได้ 2 ชนิดคือ
1. Hanger แบบที่ใช้งานกับสกรูลำเลียงชนิด ''ท่อกลม''
เป็น Hanger ที่ออกแบบตัวแขวนด้านบนให้มีลักษณะโค้งงอรับกับด้านในของท่อสกรู ( ลองดูจากรูป )


Hanger แบบ Sprial ชนิดใช้กับงานสกรูท่อกลม ( แต่เน้นแบบเป็นงานหนัก ) จุดที่แตกต่างจาก Hanger
ทั่วไปคือ ตรงจุดเชื่อมต่อจะกัดเป็นเฟืองตรงไว้ เพิ่มเพิ่มแรงบิดของชุดสกรู

2. Hanger แบบที่ใช้งานกับสกรูลำเลียงชนิด ''รางตัวยู''
เป็น Hanger ที่ออกแบบตัวแขวนด้านบนให้มีลักษณะแบนเรียบเพื่อรับและยึดกับด้านบนของรางสกรูตัวยู ( ลองดูจากรูป )

รูปตัวอย่างการติดตั้งตัวแขวนสกรูลำเลียงชนิดรางตัวยู

อุปกรณ์ที่ใช้เป็นจุดหมุนแกนกลางในของ Hanger มีดังนี้
1. ผลิตจากวัสดุที่เป็นโลหะ เช่น ทองเหลือง หรือเหล็กหล่อ

2. ผลิตจากวัสดุที่ไม่เป็นโลหะ เช่น ไม้ หรือ พลาสติก จำพวก ซูเปอร์ลีน , โพลียูรีเทน , เทปล่อน
