ReadyPlanet.com
dot dot
ทริปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

 ทริปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

     แนะนำท่องเที่ยวด้วยภาพ .. ( TRAVEL BY PHOTO )

                ตอน  Japan Trip TRIP 2016 Osaka , Kyoto , Tokyo , Kawasaki )

ก่อนอื่นขอแนะนำการเตรียมตัวเพื่อเดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น เราควรทีการวางแผนและเตรียมตัวตามนี้ครับ

 

 ทริปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น  ทริปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น  ทริปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น


การแต่งกาย  
     
ควรจัดเตรียมเสื้อผ้าไว้สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวที่จำเป็น และเหมาะสมกับสภาพอากาศและอุณหภูมิของช่วงเวลาที่เราจะทำการเดินทาง ซึ่งช่วงเดือนเมษายนของประเทศญี่ปุ่นจะเป็นช่วงที่อากาศไม่ถึงกับหนาวเย็นมาก โดยอุณหภูมิ ประมาณ 12-17 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นอากาศที่กำลังเย็นสบาย  แต่ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาว ประเภท เสื้อหนาวบาง ๆ เสื้อแจ๊คเก็ตกันลม หรือเสื้อไหมพรมไม่หนามาก หมวก ซึ่งเสื้อหนาวควรเลือกตัวที่ใส่สบายและให้ความอบอุ่น แต่ควรนำติดตัวไปแค่ตัวเดียวครับ เพราะเราสามารถใส่เสื้อด้านในซ้อนได้หลายชั้นครับ
     เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีสภาพภูมิประเทศเป็นเกาะ บางครั้งอาจจะเกิดฝนตกโดยไม่ได้ตั้งตัวได้ครับ ดังนั้นจึงควรพกร่มไปด้วย แนะนำเป็นร่มชนิดพับได้นะครับ ( หรืออาจจะไปซื้อตามพวกร้านสะดวกซื้อก็ได้ครับ ซึ่งจะเป็นร่มแบบใส ๆ คันนึงประมาณ 60 บาทไทย ครับ เราสามารถใช้ได้ตลอดทริปการเดินทางจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายก่อนกลับเราสามารถทิ้งไว้ที่โรงแรมได้เลยครับ ก็สะดวกอีกอย่างไม่ต้องแบกไปจากเมืองไทยครับ )
     ส่วนรองเท้าควรเน้นเป็นรองเท้าผ้าใบที่ค่อนข้างออกไปทางสวมใส่เดินสบายครับ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จำเป็นจะต้องอาศัยการเดิน และระยะทางค่อนข้างไกล เช่นการเดินทางโดยรถสาธารณะ อย่างรถไฟฟ้าใต้ดิน บนดิน ส่วนมากจะเดินค่อนข้างไกลครับ เพราะฉะนั้น การเลือกรองเท้าคู่เก่งค่อนข้างสำคัญมากครับ 
 

ร่มกันฝน 

ยารักษาโรค
      ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีร้านขายยาเป็นจำนวนมาก ตามแหล่งช็อปปิ้งใหญ่ ๆ แต่ยาบางอย่างไม่สามารถซื้อหาเองได้ตามร้านขายยาครับ ต้องมีใบสั่งจากแพทย์เท่านนั้น ซึ่งสำหรับบางท่านที่มีโรคประจำตัวควรจะนำยาที่ใช้ประจำติดตัวไปด้วยครับ ส่วนยาที่เราจะเตรียมเพิ่มเติมได้แก่ ยาแก้ไขหวัด ( เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงเร็ว และมีฝนตกอาจจะทำให้เราเป็นไข้หวัดได้ครับ ) ยาจำพวกแก้อาการท้องเสีย 

ภาษาที่ใช้ 
      ประชากรของประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใช้ภาษญี่ปุ่นเป็นภาษาหลัก ส่วนภาษาอังกฤษนั้น อาจจะใช้ได้ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่นโรงแรม , สนามบิน , สถานที่ท่องเที่ยว หรือตามเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
ให้ข้อมูลท่องเที่ยวซึ่งเค้าสามารถพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง ( ส่วนมากเราจะใช้ภาษาอังกฤษคู่กับภาษามือครับ ) คนญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่อนข้างชาตินิยมครับ ถึงแม้เค้าจะฟังเราพูดภาษาอังกฤษเข้าใจแต่เค้าก็จะตอบเราเป็นภาษามือปนกับภาษาญี่ปุ่นครับ ( น่ารักไปอีกแบบ ) แต่ความมีน้ำใจต้องยกให้เค้าครับ 
      เราสามารถเตรียมบทสนทนาง่าย ๆ เพื่อใช้ฟังหรือสื่อสารกับเค้าได้บ้างจะรู้สึกได้ถึงวัฒนธรรมที่สวยงามครับ เช่น ภาษาญี่ปุ่นที่ควรรู้ไว้บ้างตามนี้ครับ
            การทักทาย
1.おはようございます  ( โอะฮะโยโกะไซมัส )  แปลว่า สวัสดีตอนเช้า 
ใช้ทักทายได้ตั้งแต่รุ่งเช้า  จนถึง  10  โมงเช้าแต่จะไม่เกิน  11  โมงเช้า  ควรใช้น้ำเสียงที่สดชื่น ชัดเจน  ถ้าเป็นเพื่อน หรือ คนที่สนิท พูดแค่   おはよう  (โอะฮะโย) ก็ได้
2.こんにちは  ( คนนิจิวะ ) แปลว่า  สวัสดีตอนกลางวัน 
ใช้ทักทายตอนกลางวัน  10 โมงเกือบ 11 โมงไปจนถึง เย็น ไม่เกิน 6 โมงเย็น  ก่อนพระอาทิตย์ตก สามารถใช้ได้กับทุกคนเพราะเป็นคำที่สั้นอยู่แล้ว
3.こんばんは  (คนบังวะ) แปลว่า   สวัสดีตอนเย็น 
ใช้ทักทายตั้งแต่ตอนเย็น  6  โมงเย็น ไปจนถึง  รุ่งเช้า  ก่อน ตี 5 
4.ありがとうございます  (อะริงะโตะโกะไซมัส) แปลว่า  ขอบคุณ 
ใช้ขอบคุณกันแบบทาง  หรือ สุภาพ   ถ้าเป็นคนที่สนิท หรือ เพื่อน ใช้แค่  ありがとう  ( อะริงะโตะ) ก็พอ
5.どうも ありがとう ございます。 ( โด้โหมะ อะริงะโตะโกะไซมัส ) แปลว่า  ขอบคุณมาก 
ใช้เวลาที่เราขอบคุณมากๆจริงๆแสดงถึงความซาบซึ้ง จริงใจ
6.すみません  ( ซึมิมะเซน ) แปลว่า ขอโทษครับ / ค่ะ
ใช้ในกรณีที่ต้องขอทางเวลาคนเยอะๆ เช่น การขอทางลงบนรถไฟ การขอทางลงบันได เป็นต้น หรือจะเป็นการกล่าวคล้ายขอโทษที่รบกวนคนอื่่น ๆ หรือทำให้เค้าเสียเวลา หรือใช้เพื่อเรียกขอความช่วยเหลือ , ขอทาง ความหมายจะคล้ายกับการกล่าวคำว่า Excueme ในภาษาอังกฤษ 
7.ごめんなさい。( โกะเมนนะไซ ) แปลว่า ขอโทษครับ / ค่ะ
ใช้เวลาทำผิดขั้นหนักหน่อย เช่น ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เหมือนคำว่า  Sorry
8.さようなら      ( ซาโยนะระ ) แปลว่า   ลาก่อน
ความหมายว่า ''ลาก่อน'' เพราะมันฟังดูเศร้าๆ สำหรับคนญี่ปุ่นก็เช่นกัน คำว่า ซาโยนาระ ใช้ในกรณีที่ต้องจากกันโดยที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีกหรือไม่ 
9.またあいましょう   ( มะตะไอมาโช่ ) แปลว่า  แล้วเจอกัน
ใช้บอกลาทั่วไป  เป็นคำที่มีมารยาทใช้จบบทสนทนา
10.じゃ、またね    ( จ้า, มะตะเนะ  ) แปลว่า   บาย  แล้วเจอกัน
เป็นคำง่ายๆ ใช้บอกลากับเพื่อน หรือคนที่สนิท 

บัตรเครดิต หรือเดบิตการ์ด
      ประเทศญี่ปุ่นเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่ใหญ่ไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่ถึงกระนั้นการใช้จ่ายด้วยเงินพลาสติกนี้ ( บัตรเครดิตต่าง ) ยังคงมีข้อจำกัดอยู่บ้างที่สถานที่ที่ใช้ คือสามารถใช้ได้ตามโรงแรม ( ใหญ่ ๆ ) , ห้างสรรพสินค้าในเมืองใหญ่ หรือห้างใหญ่ๆ , ร้านค้าและร้านอาหารใหญ่ๆ ตามเมืองสำคัญ ๆ และแหล่งท่องเที่ยว 

การจ่ายเงิน,และให้ทิป
      การให้ทิปคงเป็นมาตราฐานทั่วไป เหมือนกับประเทศไทยคือ ตามร้านอาหารใหญ่ ๆ โรงแรม หรือสถานบริการต่างๆ เราจะให้ทิปตามความพอใจชื่นชอบในการให้บริการ (เพราะส่วนใหญ่สินค้าจะรวม Service Charge ไว้หมดแล้ว ) ส่วนเรื่องการจ่ายเงิน ให้สังเกตุว่าที่ญี่ปุ่น เวลาเราเข้าร้านสะดวกซื้อ , ร้านอาหารที่ต้องเข้าแถวจ่ายเงินด้วยตนเอง ทางร้านจะเตรียมถาดไว้สำหรับวางเงิน ให้เราวางเงินที่จะจ่ายไว้ในถาด โดยพนักงานจะรับเงินจากถาดของเราเท่านั้น ซึ่งถือเป็นมารยาท ( ต่างกับคนไทยในร้านสะดวกซื้อ วางกันบนเค้าเตอร์เลยครับ ) นี่แหละครับค่านิยม และวัฒนธรรมต่างกัน

เวลา
      สำหรับเวลาที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นจะเร็วกว่าเวลาในประเทศไทย 2 ชั่วโมง และเร็วกว่าเวลามาตรฐานโลก (กรีชนิช) 9 ชั่วโมง ซึ่งเวลาจะเป็นเช่นนั้นตลอดปี โดยไม่มีการปรับเวลาตามฤดูกาล 

ภูมิอากาศและฤดูกาล
     ฤดูกาลในญี่ปุ่นจะมีด้วยกัน 4 ฤดู ก็คือ ฤดูใบไม้ผลิ , ฤดูร้อน , ฤดูใบไม้ร่วง , ฤดูหนาว เราไปดูกันเลยครับว่าแต่ละฤดูจะเป็นอย่างไรและควรเตรียมตัวกันอย่างไรถ้าต้องเดินทางท่องเที่ยวช่วงเวลาฤดูดังกล่าว     

✿ ฤดูใบไม้ผลิ (ฮารุ) จะเริ่มต้นในเดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาแห่งความสดชื่น เพราะในฤดูนี้ ดอกไม้จะเริ่มผลิแย้ม ใบไม้สีเขียวขจี ลมเย็นๆ สบายๆ ที่พัดพาเอากลิ่นไอธรรมชาติ บวกกับสีสรรแห่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง เป็นฤดูที่น่าเที่ยวมากที่สุด โดยเฉพาะ ช่วง เดือนเมษายน อันเป็นเดือนที่ดอกซากุระบานสะพรั่งทุกแห่งหน จะถูกปกคลุมไปด้วย สีชมพู และขาว ชาวญี่ปุ่นจะพากันเอาเสื่อมาปูใต้ต้นซากุระ และจิบสาเก ชื่นชมความงาม ของดอกซากุระ ซึ่งเป็นภาพที่ติดอยู่ในความทรงจำนั่นเอง ✿ ฤดูใบไม้ผลิ (ฮารุ) จะเริ่มต้นในเดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาแห่งความสดชื่น เพราะในฤดูนี้ ดอกไม้จะเริ่มผลิแย้ม ใบไม้สีเขียวขจี ลมเย็นๆ สบายๆ ที่พัดพาเอากลิ่นไอธรรมชาติ บวกกับสีสรรแห่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง เป็นฤดูที่น่าเที่ยวมากที่สุด โดยเฉพาะ ช่วง เดือนเมษายน อันเป็นเดือนที่ดอกซากุระบานสะพรั่งทุกแห่งหน จะถูกปกคลุมไปด้วย สีชมพู และขาว ชาวญี่ปุ่นจะพากันเอาเสื่อมาปูใต้ต้นซากุระ และจิบสาเก ชื่นชมความงาม ของดอกซากุระ ซึ่งเป็นภาพที่ติดอยู่ในความทรงจำนั่นเอง    



      ฤดูใบไม้ผลิ (ฮารุ) จะเริ่มต้นในเดือนมีนาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาแห่งความสดชื่น เพราะในฤดูนี้ ดอกไม้จะเริ่มผลิแย้ม ใบไม้สีเขียวขจี ลมเย็นๆ สบายๆ ที่พัดพาเอากลิ่นไอธรรมชาติ บวกกับสีสรรแห่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง เป็นฤดูที่น่าเที่ยวมากที่สุด โดยเฉพาะ ช่วง เดือนเมษายน เป็นเดือนที่ดอกซากุระบานสะพรั่งทุกแห่งหน จะถูกปกคลุมไปด้วย สีชมพู และขาว ชาวญี่ปุ่นจะพากันเอาเสื่อมาปูใต้ต้นซากุระ และจิบสาเก ชื่นชมความงาม ของดอกซากุระ ซึ่งเป็นภาพที่ติดอยู่ในความทรงจำนั่นเอง

ฤดูร้อน  (นัสซึ) จะเริ่มต้นตั้งแต่เดือน มิถุนายน ไปจนถึงเดือนสิงหาคม เป็นการเริ่มต้นแห่งฤดูปลูกข้าวของชาวนา อากาศในญี่ปุ่นจะเริ่มอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ฤดูนี้จะเป็นฤดูแห่งความสนุกสนาน เพราะเป็นช่วงที่มีเทศกาลประจำปีต่างๆ มากมายรวมทั้งการเฉลิมฉลองต่างๆ เป็นช่วงของการท่องเที่ยว และตากอากาศตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย จนเต็มไปด้วยผู้คนทั้งคนญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะตามสถานที่ตากอากาศแถบชายทะเล ซึ่งคนนิยมไปทะเลในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคม จึงเป็นฤดูที่มีอากาศดี ท้องฟ้าสีคราม สดใส ถือว่าเป็นฤดูที่น่าท่องเที่ยวเช่นกัน  

   ฤดูร้อน  (นัสซึ)
จะเริ่มต้นตั้งแต่เดือน มิถุนายน ไปจนถึงเดือนสิงหาคม เป็นการเริ่มต้นแห่งฤดูปลูกข้าวของชาวนา อากาศในญี่ปุ่นจะเริ่มอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ฤดูนี้จะเป็นฤดูแห่งความสนุกสนาน เพราะเป็นช่วงที่มีเทศกาลประจำปีต่างๆ มากมายรวมทั้งการเฉลิมฉลองต่างๆ เป็นช่วงของการท่องเที่ยว และตากอากาศตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย จนเต็มไปด้วยผู้คนทั้งคนญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะตามสถานที่ตากอากาศแถบชายทะเล ซึ่งคนนิยมไปทะเลในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคม จึงเป็นฤดูที่มีอากาศดี ท้องฟ้าสีคราม สดใส ถือว่าเป็นฤดูที่น่าท่องเที่ยวเช่นกัน
 

 ฤดูร้อน  (นัสซึ) จะเริ่มต้นตั้งแต่เดือน มิถุนายน ไปจนถึงเดือนสิงหาคม เป็นการเริ่มต้นแห่งฤดูปลูกข้าวของชาวนา อากาศในญี่ปุ่นจะเริ่มอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ฤดูนี้จะเป็นฤดูแห่งความสนุกสนาน เพราะเป็นช่วงที่มีเทศกาลประจำปีต่างๆ มากมายรวมทั้งการเฉลิมฉลองต่างๆ เป็นช่วงของการท่องเที่ยว และตากอากาศตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย จนเต็มไปด้วยผู้คนทั้งคนญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะตามสถานที่ตากอากาศแถบชายทะเล ซึ่งคนนิยมไปทะเลในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคม จึงเป็นฤดูที่มีอากาศดี ท้องฟ้าสีคราม สดใส ถือว่าเป็นฤดูที่น่าท่องเที่ยวเช่นกัน

     ฤดูใบไม้ร่วง (อะกิ)
จะเริ่มตั้งแต่ เดือนกันยายน ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ฤดูใบไม้ร่วงนี้เป็นช่วงที่มีอากาศดี เพราะหลังจากฤดูร้อนผ่านพ้นไป ลมเย็นๆ ก็พัดเข้ามาแทนที่ ต้นไม้เริ่มผลัดสีจากเขียวเป็นแดง ส้ม เหลือง แล้วก็พากันร่วงหล่นลงดิน เหลือแต่กิ่งก้านโบกไหวไปตามลมรอวันที่ลมหนาวที่กำลังจะเข้ามา ในฤดูนี้นับว่าเป็นฤดูที่มีสีสันมาก คนจึงนิยมไปสวนสาธารณะที่จะเต็มไปด้วยสีแดง ส้ม เหลือง และบรรดา ต้นไม้ก็ผลัดสีมีมากมายหลายพันธุ์ที่พอสลัด ใบร่วงหล่น หมดก็จะ แตกช่อ ออกดอก นับเป็นช่วง ฤดูกาลที่สวยงามมาก เหมาะแก่การพักผ่อน 

ฤดูใบไม้ร่วง (อะกิ) จะเริ่มตั้งแต่ เดือนกันยายน ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ฤดูใบไม้ร่วงนี้เป็นช่วงที่มีอากาศดี เพราะหลังจากฤดูร้อนผ่านพ้นไป ลมเย็นๆ ก็พัดเข้ามาแทนที่ ต้นไม้เริ่มผลัดสีจากเขียวเป็นแดง ส้ม เหลือง แล้วก็พากันร่วงหล่นลงดิน เหลือแต่กิ่งก้านโบกไหวไปตามลมรอวันที่ลมหนาวที่กำลังจะเข้ามา ในฤดูนี้นับว่าเป็นฤดูที่มีสีสันมาก คนจึงนิยมไปสวนสาธารณะที่จะเต็มไปด้วยสีแดง ส้ม เหลือง และบรรดา ต้นไม้ก็ผลัดสีมีมากมายหลายพันธุ์ที่พอสลัด ใบร่วงหล่น หมดก็จะ แตกช่อ ออกดอก นับเป็นช่วง ฤดูกาลที่สวยงามมาก เหมาะแก่การพักผ่อน

      ฤดูหนาว (ฟุยุ)
จะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงฤดูกาลที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ โดยเฉพาะภาคเหนือ น้ำในแม่น้ำและทะเลสาป บางแห่งจะกลายเป็นน้ำแข็ง ทำให้เด็ก และผู้ใหญ่ ต่างก็พากันออกมาเล่นสเก็ตน้ำแข็งกันเป็นที่สนุกสนาน ส่วนบนภูเขาก็จะมีการเล่นสกีกันในเมืองซัปโปโร ที่เกาะฮอกไกโด จะมีงาน “เทศกาลหิมะ” เฉลิมฉลองกัน อย่างเต็มที่ เป็นงานเทศกาลใหญ่ระดับโลกก็ว่าได้ มีการประกวดการปั้นหิมะ เป็นรูป สถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้างในประเทศต่างๆ อีกด้วย นอกจากนี้เป็น ช่วงฤดูหนาวแห่ง ความสุขของครอบครัว ชาวญี่ปุ่นทุกคนในครอบครัว มักจะมานั่งผิงไฟ รวมกันพูดคุย หยอกล้อเป็นความสุขเล็กๆ แต่มีค่ามาก เด็กๆ ต่างพากัน รอนับวันสำคัญที่พวกเขาถือว่าเป็นวันที่ดีที่สุดในรอบปีนั่นคือ วันคริสต์มาส และวันปีใหม่ สถานที่ทุกแห่งจะมีการประดับไปด้วยไฟหลากสีสวยงาม น่าประทับใจยิ่งนัก นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาว คนญี่ปุ่น นิยมไปเที่ยวแช่น้ำพุร้อนกันมาก
 

สกุลเงิน
     สกุลเงินญี่ปุ่น คือ เงินเยน ซึ่งเราคิดคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนกับเงินไทย ส่วนตัวเวลาผมซื้อของผมจะคิดง่าย ๆว่า 100 เยนประมาณ 30 บาทไทยนั่นเองครับ

เงินเยน แบงค์ใบละ 10,000 เยน 
แบงค์ 5000 เยนแบงค์ใบละ 5,000 เยน
แบงค์ 2000 เยน แบงค์ใบละ 2,000 เยน
แบงค์ใบละ 1,000 เยน แบงค์ใบละ 1,000 เยน

เหรียญญี่ปุ่น  เหรียญญี่ปุ่น มีตั้งแต่ 500 , 100 , 50 , 10 , 5 และก็ 1 เยนครับ

     ส่วนสถานที่สำหรับการแลกเงิน ถ้าแลกไม่เยอะ เราสามารถแลกได้ที่ ตามธนาคารพาณิชย์ทั่วไปครับ หรือถ้าไปกันหลายคน และไม่รีบร้อนแนะนำให้ไปแลกตาม SUPER RICH ดีกว่าครับ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีบู๊ทของซุปเปอร์ริช ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วครับ ( แต่เนื่องจาก Route ญี่ปุ่น เป็นอะไรที่ ฟีเวอร์ครับ เพื่อความไม่ประมาทแลกล่วงหน้าก่อนเดินทางดีกว่าครับ ) สาขาในเมืองก็เช่นแถว ถนน สีลม , และซอยตรงข้ามเซ็นทรัลเวิร์ลครับ

 การใช้งาน Internet ( ทั้งแบบซื้อซิม และ Pocket wifi )
     รอบที่ผมเดินทางผมใช้ Pocket wifi ของ SAMURIA ครับ ซึ่งมีแพคเกจแตกต่างกันไป ตามจำนวนวันที่ใช้งานครับ ( ขอบอกว่าดีมากครับ เดินทางออกต่างจังหวัด ขึ้นฟูจิ ใช้งานได้ดีครับแต่อาจจะ speed drop บ้างครับ ) รายละเอียดของแพคเกจ ลองเสริชเอา ทางอากู๋นะคัรบ ( Google ) ซึ่งมีคนเขียนไว้เยอะมากครับ
     ส่วนการใช้งานแบบซื้อซิม เหมาะสำหรับคนที่เดินทางคนเดียว ใช้โทรศัพท์คนเดียว ( ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใคร ) และขณะเดินทางท่องเที่ยงไม่ได้ไปร่วมกันครับ แต่ค่าบริการอาจจะสูงกว่า และต้องระมัดระวังการใช้งานครับ ( ต้องตั้งค่าเครือข่ายให้ถูกต้อง ย้ำครับว่าควรถามผู้ให้บริการจากเมืองไทยให้เรียบร้อยครับ ) หรือใครเก่งหน่อยก็สามารถซื้อซิมที่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ที่ญี่ปุ่นครับ สถานที่ซื้อ สามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ หรือสนามบินครับ
     ส่วนใครที่ไม่ต้องการยุ่งยาก ก็สามารถเปิด DATA ROAMING ของค่ายมือถือตัวเองได้ครับ ซึ่งมีแพคเกจให้เลือกตามความต้องการมากมากครับ ( อันนี้สะดวกไปอีกแบบ แต่แอบแพงครับ )

pocket wifi ญี่ปุ่น     

     ทริปนี้ เราออกเดินทางวันที่ 3 April และเดินทางกลับวันที่ 9 April โดยทริปนี้ยังคงเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG622  เวลา 23.30 น. ในวันนี้เราเช็คอินกันที่ เคาน์เตอร์ Low C สายการบินไทย มุ่งหน้าออกเดินทางตรงสู่สนามบิน คันไซ ( Kansai ) เมืองโอซาก้า ( Osaka )
 

สุวรรณภูมิ

คุณนาย...ลูกสาวตอนนี้โตมากรอกเอกสาร IMMIGRATION ขาออกเองได้แล้วครับ

 

ตอน  Japan Trip TRIP 2016 ( Osaka , Kyoto , Tokyo , Kawasaki ) ตอน  Japan Trip TRIP 2016 ( Osaka , Kyoto , Tokyo , Kawasaki ) ตอน  Japan Trip TRIP 2016 ( Osaka , Kyoto , Tokyo , Kawasaki )

การเดินทางเที่ยวนี้เราสามารถสะสมไมล์กับทางการบินไทยได้ด้วยคัรบ

\www.thailandmower.com www.thailandmower.com

ตุนเสบียงใน KING POWER ก่อนเดินทางครับ 

      เราเดินทางถึงสนามบินคันไซ เวลาประมาณ 6 โมงครึ่ง หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ( ซึ่งคนเยอะมาก ) โชคดีที่เรานอนเอาแรงมาบนเครื่องเรียบร้อยแล้ว โดยวันนี้เราจะเดินทางไปเที่ยวยัง ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Shrine) หรือศาลเจ้าจิ้งจอกขาวเมือง ณ.เมืองเกียวโต ( Kyoto ) 

    เรามาดูประวัติคร่าวๆ ของ ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) หรือเรียกอีกชื่อว่า ศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอก ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโต (Shinto) ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจาก ความเชื่อและสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม เด่นเป็นตระหง่าน ประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย (บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว
      

ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto)ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย(บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto)ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย(บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว

อันนี้เป็นทางเดินแยก ก่อนถึงศาลเจ้าเทพอินาริ จะมีร้านขายขนมประจำท้องถิ่น ชื่อดังตั้งอยู่ครับ

 

ศาลเจ้าเทพอินาริ ศาลเจ้าเทพอินาริ

สาวๆที่ญี่ปุ่นเค้าน่ารักมากคับ อนุรักษ์วัฒนธรรมด้วยการแต่งชุด กิโมโน มาทำบุญที่ สักการะขอพร ที่ ศาลเจ้าเทพอินาริ แห่งนี้ครับ

ศาลเจ้าเทพอินาริ

คนเดินทางมา ศาลเจ้าเทพอินาริ กันอย่างเนืองแน่ครับ

ศาลเจ้าเทพอินาริ 

ศาลเจ้าเทพอินาริ

 ศาลเจ้าเทพอินาริ ศาลเจ้าเทพอินาริ

ตลอดทางเดินเข้าสู่ ศาลเจ้าเทพอินาริ จะมีร้านขายของ ทั้งของกิน , ของที่ระลึก ล้วนดูแล้วเทพ ๆทั้งนั้นครับ

 ศาลเจ้าเทพอินาริ 

ศาลเจ้าเทพอินาริ ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ ศาลเจ้าเทพอินาริ  

ร้านค้าขายของสำหรับนำไปบูชาเทพเจ้าใน ศาลเจ้าเทพอินาริ 

ศาลเจ้าเทพอินาริ  ศาลเจ้าเทพอินาริ  

ของที่นำไปเส้นไหว้ มีสีสันสวยงามครับ

ศาลเจ้าเทพอินาริ  ศาลเจ้าเทพอินาริ

ร้านปิ้งย่าง fast food ราคาจับต้องได้

ศาลเจ้าเทพอินาริ  ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ

ขนมดังโง๊ะเทพ ในตำนาน มีทั้งแบบรสชาติดั้งเดิมและรสชาเขียว กับกรรมวิธีการปิ้งแบบโบราณ


ศาลเจ้าเทพอินาริ 

ศาลเจ้าเทพอินาริ

ต้นตำรับขนมปลา ที่บ้านเราเอามาทำขายกับเต็มบ้านเต็มเมืองครับ

ศาลเจ้าเทพอินาริ

เกาลัดญี่ปุ่นแท้ ๆ

ศาลเจ้าเทพอินาริ  ศาลเจ้าเทพอินาริ
 

 อันนี้เป็นร้านขายขนมดังโงะเทพ ก่อนถึง ศาลเจ้าเทพอินาริ พิเศษตรงที่มีรสชาเขียว และการย่างแบบโบราณ โดยใช้ฟางมัดกันเป็นวงกลม แล้วใช้ไม้เสียบดังโงะ ย่างล้อมรอบด้วยไปอ่อน ๆ ครับ อร่อยมาก

 ศาลเจ้าเทพอินาริ.

แผนที่โดยรอบบริเวณ ศาลเจ้าเทพอินาริ

คนญี่ปุ่นเค้ามี ประเพณีว่าก่อนเข้าสักการะศาลเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธ์ให้ชำระล้างมือให้สะอาด ( เปรียบเหมือนได้ชำระจิตใจให้ขาวสะอาด ก่อนไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์ครับ ) โดยทุก ๆ ที่จะมีเหมือนบ่อน้ำ ออกไปทางเหมือนอ่างน้ำเสียมากกว่าครับ และจะมีกระบวยทำจากไม้ไว้ตัก บางคนก็ตักมาล้างมือ , ล้างหน้า บางคนก็ตักมาดื่มกินครับ ถือเป็นสิริมงคล

 

ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto)ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย(บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ  ศาลเจ้าเทพอินาริ

บรรยากาศบริเวณ ศาลเจ้าเทพอินาริ

  ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto)ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย(บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว

ตัวโครงสร้างของ ศาลเจ้าเทพอินาริ ส่วนมากสร้างจากไม้เข้ามุม ตกแต่งสีด้วยสีโทนส้มแสด ดูสดใส สวยงามและคงมนต์ขลัง

 

ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto)ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย(บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว  ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto)ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย(บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว

Signature ของ ศาลเจ้าเทพอินาริ อีกอย่างคือรูปปั้นสุนัขจิ้งจอก 

ศาลเจ้าเทพอินาริ ศาลเจ้าเทพอินาริ

ชาวตะตัวก็นิยมมาชมศิลปะภายใน ศาลเจ้าเทพอินาริ แห่งนี้กันอย่างเนืองแน่น

 ศาลเจ้าเทพอินาริ ศาลเจ้าเทพอินาริ

มุมของการขอพร ผู้มาขอพรจะเขียนชื่อ และคำปราถนาไว้ที่เสาประตูจำลองขนาดเล็ก 

ศาลเจ้าเทพอินาริ ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ 

อันนี้เป็นสถาปัตย์โดยรอบบริเวณครับ

 ศาลเจ้าเทพอินาริ ศาลเจ้าเทพอินาริ

บรรยากาศ ปีกฝั่งซ้ายของ ศาลเจ้าเทพอินาริ มีศาลาไม้สีสันคลาสิค ตัดกับความสดใสของดอกซากุระ ได้อย่างลงตัวและอากาศช่วงนั้นกำลังเย็นสบายเลยครับ

ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ

หลังจากที่เราเดินต่อมายังทางลาดเชิงเขา และแล้วก็มาพบกับ ไฮไลท์ของ  ศาลเจ้าเทพอินาริ นั่นก็คือ "ซุ้มประตู ที่ตั้งเรียงราย ทอดตัวยาวไปตามแนวของทางขึ้นทิวเขาครับ"

ศาลเจ้าเทพอินาริ  ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ  

ศาลเจ้าเทพอินาริ  ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ ศาลเจ้าเทพอินาริ

ศาลเจ้าเทพอินาริ

สุสานของญี่ปุ่น สวยงาม สะอาด และดูเรียบง่ายสงบ ตั้งอยู่ริมถนน ที่มีรถสัญจรไปมา ไม่น่ากลัวเลยครับ

 ศาลเจ้าเทพอินาริ        

                        







dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
รีวิวสาธิตการติดตั้งชุดคันเร่งรอบเครื่องยนต์ รถตัดหญ้าสนาม HONDA GXV160
สาธิตวิธีการเปลี่ยนล้อรถตัดหญ้า 4 ล้อสนาม HONDA GXV160 รุ่นมีถุงเก็บหญ้า
dot
dot
วิธีประกอบชุดคอรถตัดหญ้า รุ่น มินิ 2 IN 1
dot
dot
สาธิตวิธีการประกอบคาร์บูเรเตอร์ลูกใหม่เข้ากับเครื่องยนต์ HONDA GP160
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
วิธีการเลือกซื้อใบสกรูลำเลียง
dot
dot
การเลือกซื้อเครื่องตัดหญ้า รถตัดหญ้าให้เหมาะกับการใช้งาน
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot

dot
dot
dot
www.thailandmower.com
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
สวนมะนาวคุณวน


ตรวจสอบสถานะ EMS และ ไปรษณีย์ลงทะเบียน


Copyright © www.thailandmower.com 2010 All Rights Reserved.

 LSH  METALWORK  CO., LTD.
Copyright © 2008 All Right Reserved.
31/13-14 M4 Soi Bangkadee 35 Rama 2 Road Saemaedam Bangkhuntien Bangkok 10150 Thailand.
 Tel : 02-452-1515 Fax : 02-896-2559  Email : tanached@hotmail.com 
 

 หน้าแรก | เกี่ยวกับเรา | ถามมาตอบไป

วิธีสั่งซื้อสินค้า | วิธีชำระเงิน | ติดต่อเราและแผนที่